ประวัติความเป็นมาของเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้

เกาะเชจู (Jeju Island) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ด้วย ภูมิประเทศที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก

จุดกำเนิดของเกาะเชจู

เกาะเชจูเกิดจากกระบวนการทางภูเขาไฟ เมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน โดยมี ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan) เป็นศูนย์กลางของการปะทุและกลายเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ภูมิประเทศของเกาะส่วนใหญ่เป็น ลาวาแข็งตัว ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ ทำให้มีลักษณะเป็นเกาะที่มีหินภูเขาไฟกระจายอยู่ทั่วพื้นที่

แม้ว่าเชจูจะมีต้นกำเนิดมาจาก กิจกรรมทางภูเขาไฟ แต่ปัจจุบันเป็น เกาะที่ไม่มีภูเขาไฟระเบิดอีกต่อไป ทำให้สามารถพัฒนาเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกจากยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site)

อารยธรรมยุคแรกและชุมชนดั้งเดิม

เชจูเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมือง แทยอนจิน (Taejŏn-chin) ซึ่งเป็นชนกลุ่มแรกที่อาศัยอยู่บนเกาะ โดยมีบันทึกว่าชุมชนดั้งเดิมของเชจู ตั้งรกรากอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น เครื่องมือหินเก่าแก่ ภาพสลัก และหมู่บ้านโบราณ

ตำนานพื้นเมืองของเชจูยังกล่าวถึง สามเทพเจ้า (Samseonghyeol) ที่เชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวเชจู เทพเจ้าเหล่านี้ถูกส่งลงมายังโลก และเป็นผู้ให้กำเนิดราชวงศ์และวัฒนธรรมบนเกาะ

ยุคอาณาจักรและความสัมพันธ์กับเกาหลีแผ่นดินใหญ่

ในช่วง ยุคราชวงศ์โครยอ (Goryeo Dynasty, ค.ศ. 918 – 1392) เกาะเชจูเคยเป็นอาณาจักรอิสระที่รู้จักกันในชื่อ Tamna และมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับราชวงศ์จีนและญี่ปุ่น แต่ในที่สุดก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเกาหลี

ยุคต่อมา ในสมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty, ค.ศ. 1392 – 1897) เกาะเชจูถูกใช้เป็นสถานที่เนรเทศนักโทษและขุนนางที่กระทำความผิดทางการเมือง ทำให้ประชากรบนเกาะมีลักษณะเป็นสังคมปิดและมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเกาหลีแผ่นดินใหญ่

การพัฒนาในยุคปัจจุบันและสถานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เชจูเริ่มมีการพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากสงครามเกาหลี ที่ทำให้เกาหลีใต้ต้องหาทรัพยากรและจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้สนับสนุนให้เชจูเป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเป็นเขตปกครองพิเศษของเกาหลีใต้

เกาะแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากซีรีส์เกาหลี ภาพยนตร์ และโฆษณาที่ใช้ฉากธรรมชาติของเชจูเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้น การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเชจู

1. “แฮนยอ” (Haenyeo) นักดำน้ำหญิงแห่งเชจู

อาชีพนักดำน้ำหญิงของเชจูเป็นที่รู้จักทั่วโลก ผู้หญิงเหล่านี้สามารถดำน้ำลึกโดยไม่ใช้อุปกรณ์ออกซิเจน เพื่อจับสัตว์น้ำ เช่น หอยเป๋าฮื้อ และสาหร่ายทะเล

2. อาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์

เมนูชื่อดังของเชจูได้แก่ หมูดำเชจู (Jeju Black Pork), ซุปปลาไหล และข้าวต้มฟักทอง ซึ่งมีวัตถุดิบจากธรรมชาติของเกาะ

3. สถาปัตยกรรมแบบโบราณ

บ้านดั้งเดิมของเชจูสร้างจาก หินภูเขาไฟและหลังคามุงจาก ซึ่งทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรงของเกาะ

4. รูปปั้นหิน “Dol Hareubang”

เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจู รูปปั้นหินขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากลาวาภูเขาไฟ เชื่อกันว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่ปกป้องเกาะ

5. สถานะปัจจุบันและความสำคัญของเกาะเชจู
ปัจจุบันเชจูได้รับการยกย่องว่าเป็น “ฮาวายแห่งเกาหลีใต้” เพราะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี และเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม เช่น

• ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan Mountain)
• ถ้ำลาวามันจังกุล (Manjanggul Lava Tube)
• หาดจุงมุน (Jungmun Beach)
• น้ำตกชอนจียอน (Cheonjiyeon Waterfall)

นอกจากนี้ เชจูยังเป็น จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคู่รักที่มาฮันนีมูน และได้รับการส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางของ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการประชุมระดับนานาชาติ (MICE Tourism)

เชจูคือแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เกาะเชจูไม่ได้เป็นเพียง จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่ยังเป็นสถานที่ที่มี ประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่การกำเนิดจากภูเขาไฟ ไปจนถึงการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญในปัจจุบัน หากต้องการสัมผัส ความสวยงามของธรรมชาติ และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นของเกาหลีใต้ เชจูคือสถานที่ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต