โตแล้วคบใครก็ต้องมีผลประโยชน์…จริงไหม หรือแค่ความคิดโลกสวยที่เปลี่ยนไป?

คำพูดว่า “โตแล้วคบกันเพราะผลประโยชน์” ฟังดูขัดหูในแวบแรก คล้ายคำกล่าวหาว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความไม่จริงใจ แต่ในโลกของผู้ใหญ่ ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตมากขึ้นทุกวัน คำนี้กลับมีมิติที่ลึกกว่าที่คิด บางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว ขณะที่บางคนมองว่าเป็นเรื่องของการลงทุนความสัมพันธ์ที่มีเป้าหมายร่วมกัน

คำถามก็คือ…มันผิดไหมที่คนโตแล้วจะคบกันเพราะผลประโยชน์?

เมื่อมิตรภาพในวัยเด็กไม่ตอบโจทย์ชีวิตจริง

ตอนเด็กเราอาจเลือกเพื่อนจากความชอบที่เหมือนกัน เล่นสนุกด้วยกัน หัวเราะเรื่องเดียวกัน แต่เมื่อโตขึ้น เราเริ่มมองหาคนที่ “มีวิสัยทัศน์คล้ายกัน” “ทำงานแล้วพาเราพัฒนา” หรืออย่างน้อยก็ “ไม่ฉุดรั้งเราให้ถอยหลัง” ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นคนเป็นเครื่องมือ แต่มันคือกระบวนการเฟ้นหาคนที่เข้ากับชีวิตในตอนนี้จริงๆ มิตรภาพดีๆ ก็เหมือนพาร์ตเนอร์ที่เติมเต็ม เปลี่ยนกันให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ด้วยเพราะรู้จักกันมานาน

ผลประโยชน์ที่พูดถึง ไม่ได้แปลว่าต้องเงินทองเสมอไป

หลายคนตีความคำว่า “ผลประโยชน์” แค่เรื่องผลตอบแทนทางการเงินหรือทรัพย์สิน แต่ในชีวิตจริง “ผลประโยชน์” อาจหมายถึงแรงบันดาลใจ พลังบวก คำแนะนำที่ทำให้เรามองโลกชัดขึ้น หรือแม้แต่เครือข่ายที่ช่วยให้เราก้าวหน้า บางความสัมพันธ์ไม่ต้องพูดเรื่องเงินเลย แต่ช่วยส่งเสริมกันให้เติบโตในแบบที่ไม่มีอะไรแทนได้

ชีวิตมีเวลาจำกัด คนโตจึงเลือกคบให้คุ้ม

เมื่อเรายังเด็ก เวลาคือทรัพยากรที่ดูเหมือนไม่มีวันหมด แต่พอเข้าสู่วัยทำงาน เราเริ่มเห็นชัดว่าเวลาและพลังใจคือของมีค่า ทุกคนจึงเริ่มคัดกรองความสัมพันธ์อย่างมีเหตุผลมากขึ้น เลือกคุยกับคนที่มีเป้าหมายคล้ายกัน เข้าใจกัน หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้เหนื่อยใจ พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ใช่โลกสวยน้อยลง แต่เป็นคนที่รู้จักตัวเองมากขึ้น

ผลประโยชน์ไม่ได้ฆ่าความจริงใจ แต่ทำให้สัมพันธ์ชัดเจนขึ้น

หลายความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากผลประโยชน์ เช่น ทำงานร่วมกัน เรียนด้วยกัน หรืออยู่ในแวดวงเดียวกัน กลับกลายเป็นมิตรแท้ที่เชื่อใจกันได้ที่สุด เพราะได้รู้จักกันจากการร่วมลงมือทำ ไม่ใช่แค่แชร์ความสนุก ความจริงใจไม่ได้หายไป เพียงแต่ผลประโยชน์กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการ “รู้จักกัน” มากกว่า

ถ้าคบใครแล้วรู้สึกเหนื่อย เสียพลัง เสียเวลา นั่นแหละคือผลเสียที่ไม่ควรยอมรับ

ประเด็นสำคัญคือ ไม่ได้แปลว่าทุกความสัมพันธ์ต้องมีผลตอบแทนชัดเจน แต่ต้องไม่มีใคร “ขาดทุน” หรือ “เสียสมดุล” อยู่ฝ่ายเดียวตลอดเวลา มิตรภาพดีๆ ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างผลประโยชน์ที่ดีต่อกัน กับความจริงใจที่ไม่มีอะไรแอบแฝง ถ้าความสัมพันธ์ไหนทำให้รู้สึกว่าต้องเสียตัวตน เสียสุขภาพจิต หรือถอยหลัง นั่นคือสัญญาณเตือนให้คิดใหม่

สรุปเนื้อหาของบทความ

โตแล้วใช่ไหม? คำตอบที่ชัดคือ “ใช่” คนเราโตแล้วมักคบกันด้วยเหตุผล และผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนั้น แต่ไม่ได้หมายถึงผลประโยชน์ในทางลบหรือเห็นแก่ตัวอย่างเดียว ความสัมพันธ์ที่ดีคือความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่าง “ได้บางสิ่งบางอย่าง” กลับไป ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ คำแนะนำ เครือข่าย โอกาส หรือความสบายใจที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น สุดท้าย คนโตไม่ได้คบกันเพราะต้องการอะไรจากกันอย่างเดียว แต่เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีต้องมี “คุณค่า” และคุณค่านั้นต้องเกิดกับทั้งสองฝ่ายเสมอ