โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease – HFMD) เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enterovirus โดยเฉพาะเชื้อ Coxsackievirus และ Enterovirus 71 (EV71) อาการของโรคนี้ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง แต่ในบางกรณีที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่รุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อเด็กเล็กได้ เช่น สมองอักเสบ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว

โรคมือ เท้า ปาก มีสาเหตุมาจากอะไร

โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น น้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ และตุ่มน้ำที่แตกออก หรือการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อ ซึ่งเด็กเล็กมีโอกาสรับเชื้อมากกว่ากลุ่มวัยอื่น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่

วิธีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

  • การไอหรือจาม เชื้อไวรัสแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากน้ำมูกและน้ำลาย
  • สัมผัสกับสิ่งของปนเปื้อน เช่น ของเล่น โต๊ะเรียน หรือพื้นผิวที่มีเชื้อ
  • การสัมผัสกับอุจจาระของผู้ป่วย เช่น การเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กแล้วไม่ได้ล้างมือ
  • การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส

ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก สามารถอยู่รอดในสิ่งแวดล้อมได้นาน ทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นง่าย โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีเด็กเล็กอยู่รวมกัน เช่น โรงเรียน อนุบาล หรือศูนย์เลี้ยงเด็ก

อาการของโรคมือ เท้า ปาก

อาการของโรคมักปรากฏภายใน 3-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ โดยมีลักษณะเด่นที่สามารถสังเกตได้ ได้แก่

  • มีไข้ต่ำหรือไข้สูง ในระยะแรก
  • เจ็บคอและเบื่ออาหาร เด็กบางคนอาจร้องไห้และไม่อยากกินอาหาร
  • มีตุ่มน้ำใสในปาก บริเวณลิ้น กระพุ้งแก้ม หรือเพดานปาก ทำให้เจ็บเวลากลืน
  • ตุ่มน้ำหรือผื่นแดงขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และก้น อาจพบได้บริเวณข้อศอกหรือหัวเข่า
  • บางรายอาจมีอาการอาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย

โดยปกติ อาการจะดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แต่ในบางกรณีที่รุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น สมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หัวใจอักเสบ หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ทำไมโรคมือ เท้า ปาก ถึงอันตรายในเด็กเล็ก

ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่สามารถติดเชื้อโรคนี้ได้ แต่เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นกลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อันตรายของโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กเล็ก

  • เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น สมองอักเสบ หัวใจล้มเหลว หรืออัมพาต
  • เด็กอาจขาดน้ำ เนื่องจากเจ็บปากและไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เพียงพอ
  • เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายเร็วมาก ในโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก
  • บางสายพันธุ์ของไวรัส เช่น Enterovirus 71 (EV71) อาจทำให้เสียชีวิตได้

หากพบว่าเด็กมีอาการผิดปกติ เช่น ซึม ไม่กินอาหาร มีไข้สูงเกิน 39°C นานกว่า 2 วัน หรือมีอาการชัก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

แนวทางป้องกันโรคมือ เท้า ปาก

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะก่อนกินอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
  • ทำความสะอาดของเล่น และพื้นผิวที่เด็กสัมผัสบ่อย ๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เช่น ไม่ใช้แก้วน้ำ หรือช้อนส้อมร่วมกัน
  • ให้เด็กเรียนรู้เรื่องสุขอนามัยที่ดี เช่น หลีกเลี่ยงการเอามือเข้าปาก
  • หากพบว่ามีเด็กป่วย ควรหยุดเรียนและแยกตัวออกจากกลุ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน

สรุป

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสในกลุ่ม Enterovirus และแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาการที่พบได้บ่อยคือ ไข้ เจ็บคอ มีแผลในปาก และผื่นขึ้นตามมือ เท้า และก้น แม้ว่าจะเป็นโรคที่มักหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่เด็กบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น สมองอักเสบ หัวใจอักเสบ หรือภาวะขาดน้ำ

วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ รักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ และแยกเด็กป่วยออกจากกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรค ในกรณีที่เด็กมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงไม่ลด ซึม ไม่ยอมกินอาหาร หรือมีภาวะขาดน้ำ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที